เรื่องผิวขาวกระจ่างใสต้องยกนิ้วให้สารสกัดเซราไมด์จาก สับปะรด

สับปะรด,เซราไมด์จากสับปะรด,ประโยชน์ของเซราไมด์จากสับปะรด,คุณสมบัติของเซราไมด์จากสับปะรด

เรื่องผิวขาวกระจ่างใสต้องยกนิ้วให้สารสกัดเซราไมด์จาก สับปะรด 

สับปะรด ทุกคนจะรู้จักดีเนื่องจากเป็นพืชผัก ผลไม้ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ลึกลงไปว่าความจริงแล้วสับปะรดถือเป็นสารสกัดที่มีประโยชน์แก่ผิวพรรณของเรามากมาย เพราะในผลของสับปะรดนั้นมีส่วนประกอบของเซราไมด์ที่ถือเป็นสารสกัดหลักของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงผิว วันนี้ วิณพา จะมาพูดถึงสารสกัดเซราไมด์จากสับปะรดให้ทุกคนฟังกันค่ะ

สับปะรดเป็นพืชล้มลุกในเขตเมืองร้อนทนต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ดี ปลูกได้ทุกแห่งในประเทศไทย ถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ เนื่องจากสับปะรดมีปริมาณสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่มีคุณสมบัติชะลอวัย

Depositphotos_25296465_xl-2015

เรายังพบว่าในสับปะรดประกอบไปด้วยสารสกัดเซราไมด์ (pineapple ceramine) ซึ่งเป็นโมเลกุลของไขมันชนิดหนึ่งที่พบมากในเยื่อหุ้มเซลล์มีคุณสมบัติเหมือนกับสารปกป้องผิวตามธรรมชาติมากที่สุด โดยมีคุณสมบัติในการปกป้องและรักษาผิวพรรณ ตลอดจนปรับสมดุลคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิว

เซราไมด์จากสับปะรด ถือเป็นเซราไมด์ชนิดแรกที่สกัดได้จากผลไม้ โดยเซราไมด์จากสับปะรดนั้นมีคุณสมบัติเด่นทางด้านสร้างความกระจ่างใสให้เซลล์ผิว ให้ความชุ่มชื้นให้แก่เซลล์ผิว และคุณสมบัติด้านการอักเสบ

เซราไมด์คืออะไร???

“ เซราไมด์ ” เป็นสารจำพวกไขมัน หรือ ไลปิดชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า สฟิงโกไลปิด (Sphingolipid) โดยเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane) ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องเซลล์จากสิ่งแปลกปลอมภายนอก เซราไมด์ถูกพบได้ที่ผิวชั้นบนของหนังกำพร้า (Epidermis) โดยสร้างขึ้นภายในเซลล์ผิว (Keratinocyes) และปล่อยออกมาเมื่อเซลล์ผิวเคลื่อนสู่ผิวชั้นบน เซราไมด์จึงเป็นสารตามธรรมชาติที่แทรกอยู่ระหว่างเคราติน (Keratin) ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของผิวชั้นบนสุด เซราไมด์เชื่อมเคราตินให้เรียงตัวกันเป็นระเบียบส่งผลให้ผิวทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันการสูญเสียน้ำของผิว ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวแห้งกร้าน ไม่สดใสอีกด้วยนอกจากนี้

ประโยชน์ของเซราไมด์จากสับปะรด

ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ชุ่มชื้น ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวพรรณดูกระจ่างใสขึ้น โดยธรรมชาติเซราไมด์จะค่อยๆ มีปริมาณลดน้อยลง เมื่อมีอายุมากขึ้น จึงเป็นผลให้สภาพผิวมีการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ผิวขาดเซราไมด์ คือ พันธุกรรมมีผิวแห้งแต่กำเนิด การสัมผัสกับแสงแดด รวมถึงความเครียดก็เป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์ผิวสร้างเซราไมด์ลดลง หากผิวเกิดการขาดเซราไมด์ จะส่งผลให้ผิวแห้งแตกง่าย เกิดริ้วรอยตีนกา รอยเหี่ยวย่นได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ บนผิวขึ้นอีกด้วย

เพราะผิว...ต้องการเซราไมด์

ประโยชน์ของเซราไมด์ที่มีต่อผิวนั้นค่อนข้างหลากหลาย พบมากบริเวณผิวหนังชั้นนอก โดยเฉพาะในชั้นที่เรียกว่า Stratum Corneum มากถึง 40% ซึ่งหน้าที่ของเซราไมด์ที่มีต่อผิวนั้นมีมากมาย เช่น

  • ปกป้องผิว : ดูแลและปกป้องผิวจากมลพิษต่าง ๆ อนุมูลอิสระ เชื้อโรค และรังสี UV
  • ประสานผิว : ดูแลความแข็งแรงให้กับผิวโดยการเป็นตัวประสานระหว่างเซลล์ผิวทั้งหมดเข้าด้วยกัน
  • รักษาความยืดหยุ่นของผิว : โดยการยับยั้งเอนไซม์ที่เข้าทำลายผิว เช่นอีลาสเทส (Elastaste Enzyme) , และคอลลาจีเนส (Collagenase Enzyme) ที่จะเข้ามาทำลายอีลาสตินและคอลลาเจนของผิว
  • เพิ่มความชุ่มชื้น : ปกป้องการสูญเสียน้ำโดยการกักเก็บน้ำไว้ภายใต้ผิวหนัง
  • ลดอาการของโรคบางชนิด : เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) ,โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)

ทำอย่างไรให้ผิวไม่ขาดเซราไมด์

เซราไมด์ มีอยู่ทั่วไปในอาหารหลายชนิด และมีมากในอาหารจำพวกข้าวและพืช อย่างไรก็ตามการรับประทานข้าวและพืชในปริมาณมากๆ อาจทำให้ร่างกายได้รับพลังงานมากเกินความจำเป็น ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ดังนั้นการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มี เซราไมด์ เป็นส่วนประกอบโดยตรงจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ผิวชุ่มชื้นสมบูรณ์แบบ แน่นอนที่สุดว่าผิวขาดเซราไมด์ไม่ได้ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นและคงไว้ซึ่งผิวอ่อนเยาว์ แต่จะดีที่สุดหากเราได้รับสารอาหารอื่นๆ ที่มีคุณประโยชน์กับผิวควบคู่ไปด้วย เพื่อการทำงานที่เต็มประสิทธิภาพของเซลล์ผิวช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น เรียบเนียนสมบูรณ์แบบ ถือว่าเป็นสารอาหารด้วยในการฟื้นฟูสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวเเห้ง หยาบกร้านและเพื่อรักษาความชุ่มชื้นและคงไว้ซึ่งผิวอ่อนเยาว์ได้ดีที่สุดเลย