เอลเดอร์เบอร์รี่ (Elder Berry Powder) เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ชั้นดี

เอลเดอร์เบอร์รี่

เอลเดอร์เบอร์รี่ (Elder Berry Powder) เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ชั้นดี

เอลเดอร์เบอร์รี่ เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารต่างๆ มากมาย มีประโยชน์มากในเรื่องของการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วันนี้ วิณพา จะพามาทำความรู้จักเอลเดอร์เบอร์รี่ให้ดียิ่งขึ้น จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

เอลเดอร์เบอร์รี่คือ ?

เอลเดอร์เบอร์รี่ หรือ Elder-Berry คือ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ขนาดเล็ก มีสีม่วงเข้ม มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Sambucus Nigra เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในยุโรป และแอฟริกาทางตอนเหนือ ซึ่งในหลายประเทศในแถบยุโรป มักนำเอลเดอร์เบอร์รี่มาทำเป็นน้ำเชื่อม เพื่อใช้รับประทานเป็นอาหารเช้า รวมทั้งนำผลมาทำเป็นเครื่องดื่ม ไวน์ แยม รวมถึงน้ำผลไม้

ลักษณะของเอลเดอร์เบอร์รี่

เอลเดอร์เบอร์รี่ ถูกจัดเป็นพืชล้มลุกขนาดเล็กที่มีอายุยืน โดยลักษณะต้นจะมีทรงพุ่มขนาดกลาง ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก มีก้านใบยาว และมีใบย่อยออกตรงข้ามกัน ลักษณะของใบคือทรงรีขอบใบหยักและมีก้านใบสั้น ตรงนี้อาจไม่มีประโยชน์ ส่วนที่มีประโยชน์คือส่วน “ดอก” จะออกเป็นช่อเป็นพวง มีดอกย่อยเล็กๆ มีลักษณะฝอยสีขาว ตรงนี้แหละสามารถนำมาทำเป็น “ชา” ที่มีประโยชน์ที่สุดสำหรับผู้หญิง ส่วน “ผล” ที่เป็นพวง มีลักษณะทรงกลมเล็กๆ ผลดิบสีเขียว ผลสุกจะมีสีม่วงเข้ม สีดำ มีเนื้อสีแดงเข้ม เนื้อนุ่มฉ่ำน้ำ มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน นี่แหละ…ที่มีสรรพคุณด้านความสวยความงาม

สารอาหารในเอลเดอร์เบอร์รี (Elderberry)

ในเอลเดอร์เบอร์รี่ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารต่างๆ มากมาย ดังนี้

  • สารแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) ชื่อ Cyanidin-3-Sambubioside เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งเป็นสารสำคัญที่อยู่ในเอลเดอร์เบอร์รี ช่วยยับยั้งการเกาะติดของเชื้อไวรัสกับเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ชะลอการเติบโตของเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ ช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างดีเยี่ยม
  • เควอซิติน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถต้านอาการอักเสบและภูมิแพ้ มีฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งสารฮีสตามีนที่เป็นสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบและภูมิแพ้ต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย รวมทั้งยังลดความเสี่ยงของโรคหัวใจอีกด้วย
  • รูติน มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และช่วยต้านอาการภูมิแพ้ได้ดี โดยปกติเมื่อสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกาย ร่างกายจะปลดปล่อยสารฮีสตามินซึ่งเป็นสารกระตุ้นการอักเสบ ทำให้หลอดลมตีบและมีอาการแพ้เกิดขึ้น รูตินมีสรรพคุณช่วยยับยั้งการหลั่งฮีสตามีนหรือทำให้เกิดช้าลงจึงช่วยให้อาการแพ้ต่างๆ ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ลดการเกิดลิ่มเลือด ทำให้หลอดเลือดฝอยและหลอดเลือดดำแข็งแรง จึงมีผลในการรักษาอาการฟกซ้ำดำเขียว ป้องกันหลอดเลือดเปราะแตกง่าย และช่วยลดอาการเส้นเลือดขอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • วิตามินเอ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงสายตาช่วยในการมองเห็น ป้องกันโรคตาบอดในตอนกลางคืน
  • วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจน
  • วิตามินบี 1,6,12 ช่วยในการดูแลระบบประสาทให้ทำงานได้อย่างเป็นปกติ และช่วยเสริมการทำงานของเม็ดเลือดขาว

เอลเดอร์เบอร์รี่กับภูมิคุ้มกัน

จากรายงานของ The ABC Clinical Guide to Elder Berry พบว่า เอลเดอร์เบอร์รีช่วยในการรักษาอาการไอ มีไข้ หนาวสั่น คัดจมูก มีน้ำมูก อาการไข้หวัดใหญ่ รวมไปถึงเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง โดยในรายงานอธิบายผลการออกฤทธิ์ของเอลเดอร์เบอร์รีต่อเชื้อไข้หวัดใหญ่หรือ Influenza virus เกิดจากการที่สารสำคัญในเอลเดอร์เบอร์รีกลุ่ม Cyanidin-3-Sambubioside (Anthocyanins) สามารถไปจับกับไกลโคโปรตีน Hemagglutinin Protein บนผิวไวรัส ส่งผลยับยั้งการเกาะติดของเชื้อไวรัสกับเซลล์ในร่างกายและทำให้ไวรัสไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้ ระบบภูมิคุ้มกันจึงกำจัดเชื้อไวรัสได้โดยไม่ก่อให้เกิดอาการของโรคไข้หวัด และพบว่าสารสกัดจากผลเอลเดอร์เบอร์รียังสามารถเพิ่มปริมาณของสาร Cytokines ที่ใช้สื่อสารระหว่างเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกัน จึงช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพในการป้องกันและทำลาย Antigen เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าสาร Pectic Polysaccharide ในเอลเดอร์เบอร์รีสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันโดยการกระตุ้นการทำงานของ Macrophage อีกด้วย